Wooden Doors Part II

วันนี้เรามาดูรายละเอียดของประตูบานไม้กันต่อครับ  เป็นสิ่งที่เราจับต้องกันอยู่ทุกวัน แต่บางครั้งเราอาจเลือกใช้หรือติดไม่เหมาะสมก็ได้ครับ

มือจับล๊อคบานประตู สามารถเลือกใช้ได้หลายแบบ มีทั้งแบบที่เป็นลูกบิด แบบที่เป็นมือจับและกลอน แบบที่เป็นลูกบิดล๊อคเสริม (dead bolt) วิธีเลือก กรณีเป็นประตูบานหน้าบ้าน ควรติดแบบที่เป็นมือจับและกลอน ส่วนแบบลูกบิดก็สามารถใช้ได้แต่ควรติดลูกบิดล๊อคเสริมเพื่อเพิ่มความปลอดภัยเนื่องจากลูกบิดสามารถงัดทำลายได้ไม่ยาก กรณีที่ใช้ประตูบานคู่ การติดมือจับล๊อคบานประตูจะต้องจัดหาก่อนสั่งซื้อบานประตูและดูที่ส่วนของกลอนประตู ว่าเหมาะสมกับชนิดของบานประตูที่มีการบังใบหรือไม่ สำหรับประตูบานเปิดเดี่ยวภายในอาคาร ลูกบิดประตูหนึ่งชุดก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป

                                                มือจับล๊อคบานประตูสำหรับประตูบานหน้าบ้าน

ลูกบิดของประตูจะมีลักษณะการทำงานหลายแบบ แบ่งเป็นแบบสำหรับห้องทั่วไปจะเปิดเข้าด้วยการไขกุญแจ ด้านในเป็นแบบกดปุ่มล๊อค ห้องเก็บของจะเปิดเข้าด้วยการไขกุญแจและล๊อคตัวเองทุกครั้งเมื่อปิดประตู ห้องน้ำจะเป็นแบบไม่มีกุญแจ เปิดเข้าได้ด้วยการใช้เหรียญหรือไขควงไขเปิด ด้านในเป็นแบบกดปุ่มล๊อค

 

บานพับประตู กรณีใช้ประตูไม้เนื้อแข็งหรือไม้สักที่มีน้ำหนักบานประตูมาก ควรใช้บานพับแบบแหวนลูกปืนเพื่อการใช้งานที่ทนทานมากกว่าแบบแหวนสแตนเลสและแหวนไนล่อน ส่วนของบานประตูไม้อัดสามารถเลือกใช้บานพับแบบแหวนสแตนเลสได้

ส่วนประตูบานเลื่อนจะใช้รางและลูกล้อบานเลื่อนชนิดแขวนด้านบน 2 ชุด ต่อบานเลื่อน 1 บาน รางบานเลื่อนส่วนใหญ่จะใช้อลูมิเนียม มีขนาดแตกต่างกันตามน้ำหนักของบานประตู การใช้ประตูบานเลื่อนจะต้องคำนึงถึงการซ่อมแซมรางบานเลื่อนและลูกล้อบานเลื่อนด้วย โดยเฉพาะประตูบานเลื่อนแบบซ่อนในระหว่างผนัง

     อุปกรณ์เปิดปิดประตูอัตโนมัติ หรือที่เรียกทั่วไปว่า โช๊คอัพ (door closer) มีให้เลือกใช้หลายแบบของการเปิดและชนิดของบานประตูไม้ มีแบบติดบนบานประตู เหมาะสำหรับประตูเปิดปิดด้านเดียว แบบฝังในกรอบบานประตูและแบบฝังลงบนพื้น เหมาะสำหรับประตูเปิดปิดสองทาง บานประตูที่เปิดปิดสองทางจะไม่สามารถเปิดประตูได้ถึง 180 องศา ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการเปิดปิดทั่วไปและเปิดค้างที่ 90 อาศา

โช๊คอัพสำหรับบานเลื่อนก็มีเช่นกัน แต่ไม่ค่อยมีคนนิยมใช้

 

Leave A Comment