FAR & Development in India
- Tarkoon Suwansukhum
- June 6, 2013
- Sustainability
- architecture, Design, Development in India, FAR, FENN DESIGNERS, Floor Area Ratio, Planning, Sustainability, Tarkoon Suwansukhum
- 0 Comments
ได้มีประสบการณ์ออกแบบงานในประเทศอินเดียมาซักระยะหนึ่งแล้วครับ จะว่าไปก็นานหลายปีแล้วเหมือนกัน จึงอยากนำเรื่องการออกแบบ วางผัง ของโครงการอาคารพักอาศัยในประเทศอินเดียมาเปรียบเทียบกับของบ้านเราครับ
ประเทศไทยมีการควบคุม FAR ในกฎหมายอาคารที่ 10:1 และในแต่ละพื้นที่ก็จะมีการให้สัดส่วน FAR ต่างกันไป เช่น ในกรุงเทพฯ พื้นที่ในย่านพักอาศัยหนาแน่นมาก จะมี FAR ลดลงเหลือไม่เกิน 8:1 และลดหลั่นไปตามลำดับของความสำคัญของแต่ละพื้นที่ ทางด้านกฎหมายอาคารจะกำหนดให้มีพื้นที่อาคารปกคลุมดินและพื้นที่เปิดโล่งสำหรับอาคารพักอาศัยที่ 70:30 และมีการกำหนดให้มีระยะร่นของแนวอาคารห่างจากเขตที่ดินสำหรับอาคารสูงและใหญ่พิเศษที่ไม่น้อยกว่า 6 เมตร รวมไปถึงการอนุญาตให้สร้างอาคารได้สูงไม่เกินสองเท่าของความกว้างถนนด้านหน้าโครงการ นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดจากคณะกรรมการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมออกมาควบคุมพื้นที่สีเขียวที่เป็นสัดส่วนกับจำนวนผู้อยู่อาศัยในโครงการนั้น ๆ
สำหรับอินเดีย ประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของโลก มีการกำหนดรูปแบบของระยะร่นอาคารจากเขตที่ดิน รวมไปถึง FAR เอาไว้แตกต่างจากบ้านเราพอสมควรโดยยึดโยงกับขนาดความกว้างของถนน เช่น
ถนนกว้าง 14.50-20.00 ม FAR 2.25:1 ในเขตพาณิชยกรรม และ 2.50:1 ในเขตอื่น ๆ
ถนนกว้าง 20.00-24.00 ม FAR 2.50:1 ในเขตพาณิชยกรรม และ 2.75:1 ในเขตอื่น ๆ
ถนนกว้างกว่า 24.00 ม FAR 2.75:1 ในเขตพาณิชยกรรม และ 3.00:1 ในเขตอื่น ๆ
พื้นที่อาคารปกคลุมดิน สำหรับบ้านเราเมื่อออกแบบให้อาคารมีระยะร่นจากแนวเขตที่ดิน 6.00 ม โดยรอบก็จะได้พื้นที่เปิดโล่ง 30% ตามที่กฎหมายต้องการ
แต่ถ้าเป็นในอินเดียพื้นที่อาคารปกคลุมดินสำหรับอาคารพักอาศัย พื้นที่ดินไม่เกิน 200 ตรม ได้ไม่เกิน 65% พื้นที่ดินมากกว่า 500 ตรม ได้ไม่เกิน 50% ส่วนอาคารประเภทอื่นให้ก่อสร้างได้ไม่เกิน 40% ส่วนอาคารประเภทอื่นให้มีอาคารปกคลุมดินได้ไม่เกิน 40%
ระยะร่นของอาคารจากเขตที่ดิน บ้านเราร่นตามความสูงอาคาร โดยแบ่งกลุ่มของความสูงอาคารเป็น 3 ระดับ
อาคารสูงไม่เกิน 15 ม เว้นระยะไม่น้อยกว่า 1 ม โดยรอบ
อาคารสูงไม่เกิน 23 ม เว้นระยะไม่น้อยกว่า 3 ม โดยรอบ
อาคารสูงเกิน 23 ม เว้นระยะไม่น้อยกว่า 6 ม โดยรอบ
ลองดูของอินเดียบ้างครับ
อาคารสูงไม่เกิน 8 ม ระยะร่น 1.2, 1.2, 2.0 ม (ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง)
อาคารสูงไม่เกิน 18 ม ระยะร่น 3.5, 3.5, 5.0 ม (ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง)
อาคารสูงไม่เกิน 24 ม ระยะร่น 5.0, 5.0, 7.0 ม (ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง)
อาคารสูงไม่เกิน 36 ม ระยะร่น 6.0, 6.5, 9.0 ม (ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง)
อาคารสูงไม่เกิน 60 ม ระยะร่น 6.0, 6.5, 9.0 ม (ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง)
อาคารสูงไม่เกิน 80 ม ระยะร่น 10.0, 15%ของความสูง, 12.0 ม (ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง)
อาคารสูงเกิน 80 ม ระยะร่น 12.0, 15%ของความสูง, 14.0 ม (ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง)
จากเบื้องต้นจะเห็นได้ว่า การออกแบบอาคารในอินเดีย ประเทศที่ผมรู้สึกว่ามีการปลูกสร้างอาคารอยู่กันแบบหนาแน่น ได้มีการปรับปรุงและกำหนดทิศทางเมืองที่สร้างกันใหม่ให้มีความหลวมและมีที่ว่าง และที่สำคัญพื้นที่เปิดโล่งของบ้านเขาถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่สีเขียวที่เป็นดินสำหรับปลูกต้นไม้ไว้ครึ่งหนึ่งของพื้นที่เปิดโล่ง กำหนดให้มี บ่อน้ำหรือทะเลสาบไว้ถึง 5% ของพื้นที่เปิดโล่ง ช่างต่างจากบ้านเราราวฟ้ากับดิน บริษัทฯผู้พัฒนาที่ดินบ้านเราที่ทำการสร้างอาคารชุดพักอาศัยยังคงมองผลทางการลงทุนเพื่อให้ใช้ FAR มากที่สุด สร้างที่จอดรถยนต์ที่มีราคาถูกที่สุดด้วยการสร้างที่จอดรถยนต์บนดิน โดยจัดเตรียมพื้นที่สีเขียวเท่าที่จำเป็นตามข้อกำหนดของกฎหมายทางด้านสิ่งแวดล้อม และจัดเตรียมสระว่ายน้ำและพื้นที่สันทนาการไว้เพียงเล็กน้อย คงต้องเป็นหน้าที่ของผู้บริโภคที่จะต้องเลือกโครงการที่เหมาะสม ถ้ายังมีอยู่ในบ้านเรา
เปรียบเทียบผังอาคารที่จัดที่จอดรถใต้ดินกับบนดิน
Related Posts
- Geerati Tiasiri
- October 26, 2012
Toxic Materials in Thailand, the Case of Asbestos
แร่ใยหิน (asbestos) หลายคนก็คุ้นเคยและร ..
- Dr. Chafia Ferhat
- March 18, 2013
Design & Innovation: Hotel Guest Rooms
Hotel rooms in my opinion fall into two categories, hotels rooms for business travellers and th ..
I just could not leave your site prior to suggesting that I actually enjoyed the usual information a person supply…
This is fantastic! Keep up the good work. ❤️
It's interesting to see how glass can be used in so many ways to be converted into art. My husband…