­
Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

FAR & Development in India

ได้มีประสบการณ์ออกแบบงานในประเทศอินเดียมาซักระยะหนึ่งแล้วครับ จะว่าไปก็นานหลายปีแล้วเหมือนกัน จึงอยากนำเรื่องการออกแบบ วางผัง ของโครงการอาคารพักอาศัยในประเทศอินเดียมาเปรียบเทียบกับของบ้านเราครับ

Fenn Designers, Tarkoon Suwansukhum

     ประเทศไทยมีการควบคุม FAR ในกฎหมายอาคารที่ 10:1 และในแต่ละพื้นที่ก็จะมีการให้สัดส่วน FAR ต่างกันไป เช่น ในกรุงเทพฯ พื้นที่ในย่านพักอาศัยหนาแน่นมาก จะมี FAR ลดลงเหลือไม่เกิน 8:1 และลดหลั่นไปตามลำดับของความสำคัญของแต่ละพื้นที่ ทางด้านกฎหมายอาคารจะกำหนดให้มีพื้นที่อาคารปกคลุมดินและพื้นที่เปิดโล่งสำหรับอาคารพักอาศัยที่ 70:30 และมีการกำหนดให้มีระยะร่นของแนวอาคารห่างจากเขตที่ดินสำหรับอาคารสูงและใหญ่พิเศษที่ไม่น้อยกว่า 6 เมตร รวมไปถึงการอนุญาตให้สร้างอาคารได้สูงไม่เกินสองเท่าของความกว้างถนนด้านหน้าโครงการ นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดจากคณะกรรมการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมออกมาควบคุมพื้นที่สีเขียวที่เป็นสัดส่วนกับจำนวนผู้อยู่อาศัยในโครงการนั้น ๆ

Fenn Designers, Tarkoon Suwansukhum

สำหรับอินเดีย ประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของโลก มีการกำหนดรูปแบบของระยะร่นอาคารจากเขตที่ดิน รวมไปถึง FAR เอาไว้แตกต่างจากบ้านเราพอสมควรโดยยึดโยงกับขนาดความกว้างของถนน เช่น

ถนนกว้าง 14.50-20.00 ม FAR 2.25:1 ในเขตพาณิชยกรรม และ 2.50:1 ในเขตอื่น ๆ

ถนนกว้าง 20.00-24.00 ม FAR 2.50:1 ในเขตพาณิชยกรรม และ 2.75:1 ในเขตอื่น ๆ

ถนนกว้างกว่า 24.00 ม FAR 2.75:1 ในเขตพาณิชยกรรม และ 3.00:1 ในเขตอื่น ๆ

พื้นที่อาคารปกคลุมดิน สำหรับบ้านเราเมื่อออกแบบให้อาคารมีระยะร่นจากแนวเขตที่ดิน 6.00 ม โดยรอบก็จะได้พื้นที่เปิดโล่ง 30% ตามที่กฎหมายต้องการ

แต่ถ้าเป็นในอินเดียพื้นที่อาคารปกคลุมดินสำหรับอาคารพักอาศัย พื้นที่ดินไม่เกิน 200 ตรม ได้ไม่เกิน 65% พื้นที่ดินมากกว่า 500 ตรม ได้ไม่เกิน 50% ส่วนอาคารประเภทอื่นให้ก่อสร้างได้ไม่เกิน 40%  ส่วนอาคารประเภทอื่นให้มีอาคารปกคลุมดินได้ไม่เกิน 40%

ระยะร่นของอาคารจากเขตที่ดิน บ้านเราร่นตามความสูงอาคาร โดยแบ่งกลุ่มของความสูงอาคารเป็น 3 ระดับ

อาคารสูงไม่เกิน 15 ม เว้นระยะไม่น้อยกว่า 1 ม โดยรอบ

อาคารสูงไม่เกิน 23 ม เว้นระยะไม่น้อยกว่า 3 ม  โดยรอบ

อาคารสูงเกิน 23 ม เว้นระยะไม่น้อยกว่า 6 ม โดยรอบ

ลองดูของอินเดียบ้างครับ

อาคารสูงไม่เกิน 8 ม ระยะร่น 1.2, 1.2, 2.0 ม (ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง)

อาคารสูงไม่เกิน 18 ม ระยะร่น 3.5, 3.5, 5.0 ม (ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง)

อาคารสูงไม่เกิน 24 ม ระยะร่น 5.0, 5.0, 7.0 ม (ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง)

อาคารสูงไม่เกิน 36 ม ระยะร่น 6.0, 6.5, 9.0 ม (ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง)

อาคารสูงไม่เกิน 60 ม ระยะร่น 6.0, 6.5, 9.0 ม (ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง)

อาคารสูงไม่เกิน 80 ม ระยะร่น 10.0, 15%ของความสูง, 12.0 ม (ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง)

อาคารสูงเกิน 80 ม ระยะร่น 12.0, 15%ของความสูง, 14.0 ม (ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง)

จากเบื้องต้นจะเห็นได้ว่า การออกแบบอาคารในอินเดีย ประเทศที่ผมรู้สึกว่ามีการปลูกสร้างอาคารอยู่กันแบบหนาแน่น ได้มีการปรับปรุงและกำหนดทิศทางเมืองที่สร้างกันใหม่ให้มีความหลวมและมีที่ว่าง และที่สำคัญพื้นที่เปิดโล่งของบ้านเขาถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่สีเขียวที่เป็นดินสำหรับปลูกต้นไม้ไว้ครึ่งหนึ่งของพื้นที่เปิดโล่ง กำหนดให้มี บ่อน้ำหรือทะเลสาบไว้ถึง 5% ของพื้นที่เปิดโล่ง ช่างต่างจากบ้านเราราวฟ้ากับดิน บริษัทฯผู้พัฒนาที่ดินบ้านเราที่ทำการสร้างอาคารชุดพักอาศัยยังคงมองผลทางการลงทุนเพื่อให้ใช้ FAR มากที่สุด สร้างที่จอดรถยนต์ที่มีราคาถูกที่สุดด้วยการสร้างที่จอดรถยนต์บนดิน โดยจัดเตรียมพื้นที่สีเขียวเท่าที่จำเป็นตามข้อกำหนดของกฎหมายทางด้านสิ่งแวดล้อม และจัดเตรียมสระว่ายน้ำและพื้นที่สันทนาการไว้เพียงเล็กน้อย คงต้องเป็นหน้าที่ของผู้บริโภคที่จะต้องเลือกโครงการที่เหมาะสม ถ้ายังมีอยู่ในบ้านเรา

03

เปรียบเทียบผังอาคารที่จัดที่จอดรถใต้ดินกับบนดิน